วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มนต์เสน่ห์แห่งความสุข...ไม่เคยหยุดที่ เขาใหญ่

มนต์เสน่ห์แห่งความสุข...ไม่เคยหยุดที่ เขาใหญ่

เขาใหญ่


มนต์เสน่ห์แห่งความสุข...ไม่เคยหยุดที่ "เขาใหญ่" (คู่หูเดินทาง)

          "เขา ใหญ่" ถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และนับว่าเป็นผืนป่าใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครมากที่สุด เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มากสไตล์ ทั้งทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งรวบรวมสถานที่กิน เที่ยว ช้อป ไว้อย่างสมบูรณ์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล โดยมีถนนเส้นหลักที่มุ่งหน้าขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือ "ถนนธนะรัชต์" ที่เป็นเส้นทางแห่งความสุข มีเสน่ห์ดึงดูดใจและสร้างสีสันความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ ตลอดเส้นทาง และไม่ว่าคุณจะเคยมาเที่ยวที่เขาใหญ่แห่งนี้สักกี่ครั้ง เราเชื่อว่าคุณก็จะได้พบกับความแปลกใหม่ของสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอดเวลา

          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่คาบเกี่ยวใน 4 จังหวัด คือ อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี, อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา, อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และ อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เมื่อปี 2548 ได้รับการประกาศให้เป็น "มรดกโลกทางะรรมชาติ" จากองค์การยูเนสโก พร้อมได้รับการบันทึกสถิติว่า เป็นแหล่งที่มีอากาศบริสุทธ์ 1 ใน 7 ของโลก และด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดปีของที่นี่ จึงมีผู้นำองุ่นพันธุ์ไวน์ต่าง ๆ มาเพาะปลูกเป็นไร่ขนาดใหญ่ ทำอุตสหกรรมไวน์หลายแห่ง และเปิดเป็นรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศไร่องุ่น สไตล์เมดิเตอเรเนียน หรือยุโรปตอนใต้นั่นเอง

          และแล้วแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แหล่งช็อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจในสไตล์ยุโรปอีกมากมายก็เกิดขึ้นตามมาเป็นทิว แถวตลอดแนวถนนธนะรัชต์ และถนนรอบ ๆ เขาใหญ่เกือบทุกสาย คู่หูเดินทางฉบับนี้จึงอยากจะขออัพเดทมนต์เสน่ห์แห่งความสุข ณ เขาใหญ่ สถานที่ที่มีมนต์ขลังแห่งนี้








          จุดหมายแรกของเราบนเส้นทางแห่งความสุขเริ่มต้นที่ Sheep Land ตั้งอยู่บริเวณริมถนนธนะรัตน์ กม.ที่ 4 ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฟาร์มแกะชีพแลนด์ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความน่ารักของแกะตัวเล็กตัวน้อยไปถึงตัวใหญ่ ที่สามารถลูบ จับ สัมผัสได้ จะอุ้ม จะกอด ทำได้หมด ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด เพียงแค่คุณเดินผ่านประตูรั้วเข้าสู่สนามหญ้า พวกมันก็จะวิ่งเข้ามารุมล้อมรอบตัวคุณแล้ว เป็นการออดอ้อนให้คุณซื้อนมสดหรืออาหารเม็ดมาป้อนให้พวกมัน ช่างเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ แถมมันยังชอบทำตัวเป็นดาราหน้ากล้องให้คุณถ่ายรูปคู่กับมันอีก เมื่อชื่นชมความน่ารักของลูกแกะน้อยกันจนพอใจแล้ว ก่อนจากไปก็อย่าลืมแวะชิม เจลลาโต้ไอศครีมไขมันต่ำแบบโฮมเมด แล้วเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดจากผลิตภัณฑ์ขนแกะต่าง ๆ ไปฝากคนที่บ้านด้วย ชีพแลนด์ เปิดทุกวัน 11.00 – 20.30 น. (หยุดทุกวันอังคาร) โทร. 08-8071-2012










          ออกจากชีพแลนด์มาอีกนิดเดียว ประมาณ กม.ที่ 6 เราก็มาถึง The Smoke House ร้านอาหารยุโรป และอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยสร้างเป็นปราสาททรงยุโรปโบราณออกมาได้อย่างโดดเด่นสะดุดตาเป็นสง่ากับถนน สายนี้มาก ใครที่ผ่านไปมาต่างก็อดใจไว้ไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึก ไว้แอ๊คอาร์ตกับเพื่อนฝูงประหนึ่งว่าได้ไปเยือนดินแดนยุโรปแห่งใดแห่งหนึ่ง มาก็มิปาน อาหารที่นี่รสชาติดี แต่ขอแนะนำว่าควรสั่งมาหลาย ๆ เมนู แล้วแชร์กันทานจานโน้นคำจานนี้คำ รับรองได้อิ่มกันทั้งวงแน่นอน ราคาอาจจะดูค่อนข้างสูงแต่ก็คุ้มค่า เพราะของเค้าจานใหญ่จัดเต็มสมราคา

          และถ้ามานั่งทานตั้งแต่ 1 ทุ่ม เป็นต้นไป ท่านก็จะได้ทานข้าวเคล้าเสียงเพลงจากจาก 3 หนุ่มหล่อ บนเวทีแสดงสด ที่สามารถมองผ่านออกไปเห็นทุ่งกว้างและขุนเขาเบื้องหลัง ก็นับได้ว่าเป็นมื้อค่ำที่โรแมนติคไม่เบาเลยทีเดียว มีบริการไวน์รสเลิศและเบอเกอรี่รสละมุม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ เวลาที่เหมาะสำหรับการมาเยือนที่นี่ก็น่าจะประมาณช่วงแดดร่มลมตก จนถึงช่วงหัวค่ำ เพราะเมื่อยามพระอาทิตย์เริ่มอัสดง เราก็จะเริ่มเห็นแสงไฟประดับที่ทางร้านจัดแต่งไว้เพื่อเสริมความสง่างามให้ กับเดอะสโมกเฮ้าส์แห่งนี้มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืนจริง ๆ เดอะสโมกเฮ้าส์ เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.30 น. โทร. 0-4436-5222










          ผ่านเดอะสโมกเฮ้าส์มา เพียงไม่กี่นาที ช่วง กม.ที่10.6 ฝั่งซ้ายมือ เราจะได้เห็นเห็ดปูนปั้นน้อยใหญ่ สีสันน่ารัก เรียงรายอยู่ในสนามหญ้า เป็นสถานที่เที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ที่เปิดมาได้เพียงไม่นาน เขาใหญ่พานอราม่า ฟาร์ม ที่เปิดให้เข้าชมวิธีการเพาะเห็ด และสามารถเลือกเก็บเห็ดมากมายหลายสายพันธุ์ด้วยมือของคุณเอง เสร็จแล้วนำมาชั่ง จ่ายเงิน นำกลับไปปรุงอาหารที่บ้านได้เลย หรือจะเลือกสั่งอาหารเมนูเห็ดนั่งทานกันสักมื้อ ก็อิ่มอร่อยได้สุขภาพดี ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายเมนู อาทิ ลาบเห็ด ยำเห็ดสามอย่าง เห็ดทอด เห็ดย่าง ทำได้หมด แถมเห็ดสด ๆ ที่เพิ่งเก็บไปจะได้รสชาติหวานอร่อยดีด้วย

          นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูปให้เลือกซื้อกลับบ้านทั้งของสดของแห้งหลายรายการ เช่น ไส้อั่วเห็ด แหนมเห็ดโคนญี่ปุ่น น้ำพริกเผา น้ำพริกตาแดง เห็ดสวรรค์ ทองม้วน ทองพับ น้ำเห็ด 5 อย่างเพื่อสุขภาพ สมุนไพรเห็ดอัดแคปซูล ฯลฯ  เป็นที่ถูกอกถูกใจในกลุ่มคนรักสุขภาพอย่างมาก เขาใหญ่ พานอราม่า ฟาร์มเห็ด เปิดทุกวัน 8.00 – 17.00 น. หยุดทุกวันอังคาร โทร. 0-4475-6234










          มุ่งหน้าตรงมาอีกประมาณ 2 กิโลฯ ฝั่งซ้ายมือ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและความตื่นเต้นไม่ควรพลาดกับสนามขับรถโกคาร์ ทประลองความเร็วกันเล่นที่ เขาใหญ่ สปีดคาร์ท ที่นี่เขามีบริการรถโกคาร์ททั้งของเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งรถโกคาร์ทแบบ 2 ที่นั่ง รถเอทีวีของเด็กก็มีให้เช่าขับ พร้อมไฟส่องสนามยามค่ำคืน เพื่อความปลอดภัย ในราคาชั่วโมงละ 300 บาท  และสำหรับสาว ๆ ที่ไปด้วย แต่ไม่อยากแข่งรถกับหนุ่ม ๆ เค้า ก็มีที่นั่งชมทีวีถ่ายทอดสดพร้อมทานอาหารรอหนุ่ม ๆ ไปพลาง ๆ เพราะเค้ามีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการพร้อมสรรพทุกสิ่ง แถมยังรับจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ สัมมนา ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย เปิดทุกวัน 9.00 – 21.00 น. โทร. 08-6660-8060



          จากเขาใหญ่สปีดคาร์ทมาถึง กม.13 เราลองหันมามองฝั่งขวามือกันบ้าง ก็จะเห็น Cottages @ Hill Resort รีสอร์ทสีสันสวยหวานน่ารักราวกับหมู่บ้านเทพนิยายในการ์ตูนฝรั่ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักกับรีสอร์ทใหม่แกะกล่องแล้วไม่ผิดหวัง ลองเข้าเลือกชมดู มีบ้านขนาด S M L XL ให้เลือกตามความเหมาะสมกับหมู่คณะ หรือจะเพียงเข้ามาแวะนั่งพักดื่มกาแฟทอดอารมณ์ก่อนขึ้นชมเขาใหญ่ หรือจะจัดหนักกับสเต๊ก ต่อด้วยไอศครีม อิ่มแล้วเกิดจะง่วงกับเข้านวดแผนไทยได้อีก ที่นี่เค้ามีพร้อม สอบถามรายละเอียดโทร. 08-1120-6008
















          ก่อนถึงอุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ กม.17 ฝั่งซ้าย จะเห็นอาคารสไตล์อิตาเลี่ยนโบราณสีน้ำตาลอมส้มเรียงราย เป็นที่รู้จักกันในนาม Palio Khao Yai สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งของเขาใหญ่ ในคอนเซ็ปต์ถนนคนเดิน กับสินค้าอันหลากหลายที่มีมากมายกว่า 120 ร้านค้า รวมทั้งอาหาร เครื่องดื่ม สปา เสริมสวย ตลอดจนที่พักในแบบบูติคโฮเทลที่นับว่าอยู่ใกล้สะดวกสบายต่อการขึ้นเที่ยวชม อุทยานฯ เขาใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ที่นี่นอกจากคุณจะสนุกกับการช็อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีมุมสวย ๆ มากมายให้ถ่ายภาพเล่นเป็นที่ระลึก เสมือนหนึ่งว่าคุณไปเยือนเมืองอิตาลีมาอวดเพื่อนฝูงให้ดูกันอย่างตื่นตาตื่น ใจเลยทีเดียว ปาลิโอ เขาใหญ่ เปิดทุกวัน  8.00 – 20.00 น. โทร. 0-4436-5899









          เสร็จสรรพจากการโพสต์ท่าสวยกันแล้วก็มาสัมผัสธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์อย่างแท้จริงที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะผ่านด่านของอุทยานฯ เข้าไป สิ่งแรกที่ควรจะทำก็คือการแวะกราบนมัสการ เจ้าพ่อเขาใหญ่ กันเสียก่อน เพื่อเป็นสิริมงคลในการมาเยือนถิ่นนี้ สำหรับเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้น ท่านมีตัวตนจริง เคยเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้มาก่อน เดิมท่านชื่อ นายจ่าง นิสัยสัตย์ รับราชการเป็นปลัดกองทัพไทย เมื่อเสร็จศึกสงครามท่านมักจะออกเยี่ยมเยือนลูกน้องเก่าของท่าน เมื่อท่านทราบว่าลูกน้องเก่าของท่านไปตั้งตัวเป็นโจรบนเขาใหญ่และถางป่าบน เขาใหญ่จนเตียนโล่ง ก็เสียใจมาก ท่านจึงขอร้องให้ลูกน้องท่านเลิกและอพยพมาอยู่ข้างล่าง แต่ก็มีกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งไม่ยอมเชื่อ เมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ปรากฏว่าหัวหน้าโจรกลุ่มนั้นถูกยิงเสียชีวิต ท่านจึงเป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก  นอกจากนั้นท่านมีจิตใจโอบอ้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทุก ๆ ด้าน ต่อมาท่านได้จบชีวิตลงด้วยไข่ป่า ด้วยวัย 75 ปี ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งศาลเพียงตาไว้ที่ในบริเวณวัดหนองเคียม จังหวัดนครนายก เรียกว่า "ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง"

          ต่อมาหลังจากที่รัฐบาล ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ ได้จัดตั้งให้ป่าเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ได้เกิดนิมิตรถึงเจ้าผู้คุ้มครองสรรพสัตว์และผืนป่า จึงได้มีการจัดตั้งศาลเจ้าพ่อขึ้นที่บริเวณกิโลเมตรที่ 23 ถนนธนะรัชต์ และได้อัญเชิญดวงวิญญาณของท่านมาสถิตย์ไว้ แล้วขนานนามว่า "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" นักท่องเที่ยวที่แวะกราบไหว้อธิษฐานขอโชคลาภ และให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัย ท่านก็มักจะเมตตาให้สมความปรารถนาอยู่เสมอ


          เมื่อนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ และผ่านด่านเข้ามาแล้ว เราควรแวะไปที่สำนักงานของอุทยานเสียก่อน เพื่อดูว่ามีแผนกใดบ้างที่เราต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลที่น่าสนใจว่าเราจะ ทำกิจกรรมใดบ้างที่นี่ หรือศึกษาเส้นทางไปสู่จุดเที่ยวชมต่าง ๆ เช่น หน่วยกู้ภัย ศูนย์ปฎิบัติการบิน ฝ่ายวิชาการ ( พืชพรรณสัตว์ป่าและอากาศ ) ฝ่ายนันทนาการและบ้านพัก ร้านจำหน่ายของที่ระลึก หน่วยงานบริการพาส่องสัตว์ สำนักงานจองที่พักกางเต๊นท์ ฯลฯ



          สำหรับเรา เลือกที่จะแวะชม น้ำตกเหวสุวัต โดยขับผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมาประมาณ 200 เมตร ก็จะพบกับ อ่างเก็บน้ำสายศร ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำ เพื่อใช้ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สำหรับทั้งบ้านพักเจ้าหน้าที่และบ้านพักนักท่องเที่ยว และยังเป็นแหล่งน้ำสำหรับสัตว์ป่าด้วย บริเวณสันอ่างเก็บน้ำจะมีทางเดิน ไปออกที่หอดูสัตว์หนองผักชีได้ โดยต้องติดต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามานำทาง เพราะทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินเอง เนื่องจากสภาพพื้นที่ป่าเป็นป่าทึบมีโอกาสหลงทางได้ง่าย อ่างเก็บน้ำสายศร ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีจุดหนึ่งในอุทยานฯ เพราะพระอาทิตย์จะตกหลังแนวเขาพอดี ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก

          ในระหว่างทางที่เราขับรถไปเที่ยวยังน้ำตกเหวสุวัต ก็อาจจะเห็นกวาง ช้าง หรือ ลิง ลงมากินน้ำหรือหาอาหารบ้าง แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถพอสมควรเพราะทางค่อนข้างลดเลี้ยวและชัน บ้างในบางช่วง โดยจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้คือ น้ำตกเหวสุวัต เป็นน้ำตกแห่งหนึ่งที่สวยงามของอุทยานฯ เขาใหญ่ โดยเกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25 เมตร และมีแอ่งน้ำทางด้านล่าง ทางอุทยานฯ ห้ามลงเล่นน้ำ เนื่องจากกลัวอันตรายจากน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน หากมาในฤดูน้ำน้อย จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็ก ๆ ใต้หน้าผาน้ำตกได้ สำหรับห้วยลำตะคองนี้ หลังจากผ่านน้ำตกเหวสุวัตแล้ว ยังมีน้ำตกเหวไทรและน้ำตกเหวประทุนที่อยู่ลึกเข้าไปอีก แต่จะต้องเดินผ่านป่าลึกฝ่าดงทากเข้าไป ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเนื่องจากในป่าลึกนั้นเส้นทางไม่ชัดเจน อาจพลัดหลงได้ง่าย



          สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ก็สามารติดต่อของกางเต้นท์ได้ที่ จุดกางเต๊นท์น้ำตกผากล้วยไม้ มีห้องน้ำ ลานจอดรถ และลานกางเต้นท์ ที่สะดวกสบาย และจากจุดนี้หากเดินเท้าลัดเลาะไปตามห้วยลำตะคอง ผ่านป่าดงดิบตลอดทาง ประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตก ซึ่งมีลักษณะเป็นผาไม่สูงนัก น้ำตกแห่งนี้มีกล้วยไม้หลายชนิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้วยไม้หวายแดง ซึ่งจะออกดอกช่วงเดือนเมษายน หากเดินเลาะไปตามโขดหินอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะพบน้ำตกชั้นใน ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน และหากเดินเลาะมาตามห้วยลำตะคองเรื่อย ๆ ก็จะมาทะลุถึงน้ำตกเหวสุวัตได้

          สำหรับสถานที่กางเต็นท์นั้น มีลานกางเต็นท์ตามจุดต่าง ๆ และมีเต็นท์ให้เช่า การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้กับอุทยานฯ โดยตรง นอกจากที่กางเต๊นท์แล้ว ทางอุทยานฯ ยังมีบริการ ที่พัก มีบ้านพักเดี่ยว บ้านพักเรือนแถว ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 4 โซน ได้แก่ โซนศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนบนเขา-จุดชมวิว โซนค่ายสุรัสวดี และโซนบ้านธนะรัชต์ ในการมาพักแรมที่อุทยานฯ นี้ นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องเตรียมอาหารมาเอง เพราะมีร้านอาหารให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.00 - 18.00 น. ในวันจันทร์ - ศุกร์ และเวลา 07.00 - 21.00 น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ ถึง 5 แห่งด้วยกัน คือ บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, บริเวณจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้, บริเวณจุดกางเต็นท์ลำตะคลอง, บริเวณน้ำตกเหวสุวัต, บริเวณน้ำตกเหวนรก พร้อมสุขาสาธารณะบริการตามจุดบริการนักท่องเที่ยว และบริเวณลานกางเต็นท์

          นอก จากนี้อุทยานฯ เขาใหญ่ ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น เขาร่ม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขาแหลม เขาเขียว เขาสามยอด เขาฟ้าผ่า เขากำแพง เขาสมอปูน เขาแก้ว น้ำตกเหวนรก จุดชมวิวผาเดียวดาย จุดชมวิวผาตรอมใจ หอดูสัตว์หนองผักชี หอดูสัตว์คลองปลากั้ง จุดชมวิว กม.30










          เมื่อชื่มชมธรรมชาติบนอุทยานฯ กันเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลากลับ โดยเมื่อออกจากอุทยานฯ เข้าสู่เส้นทางถนนธนะรัตช์ ถึงจุดตัดกับถนนผ่านศึก- กุดคล้า ประมาณ กม.ที่ 23 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วมุ่งหน้าไปประมาณ 10 กว่ากิโลฯ เพื่อเยี่ยมชม ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ ตั้งอยู่ในหุบเขาอโศก ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โอบล้อมไปสีเขียวสดเรียงเป็นแนวของต้นองุ่นไวน์อันเลื่องชื่อหลากหลายสาย พันธุ์ สามารถหาซื้อหาผลองุ่นสด และผลิตภัณฑ์จากองุ่นเป็นของฝาก ได้ที่ "ร้านมอนติโน" ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าไร่แห่งนี้หรือหากอยาก หรือจะลิ้มลองอาหารสเลิศสไตล์ตะวันตกที่ "ร้านวิคคอตโต้" ก็ได้ ไร่กราน-มอนเต้ เปิดทุกวัน 11.00 – 21.00 น. โทร. 0-3622-7334-5



          ช่วงเวลาแห่งความสุขยัง ไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อท่านมุ่งหน้าเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ประมาณ กม. ที่ 155 – 156 ก็จะได้พบกับ ไร่ข้าวโพดสุวรรณ อันสวยงาม โดยการันตีได้ว่า เป็นฉากประกอบในละครทีวีมาแล้วหลายเรื่อง ไร่นี้อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยบรรยากาศเย็นสบาย พร้อมวิวทิวทัศน์ของทุ่งข้าวโพด ดอกผักเสี้ยนสีชมพู ดอกดาวกระจายหลายหลากสี กลางหุบเขา บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ มีข้าวโพดหวาน ทั้งแบบต้มและแบบดิบ รวมทั้งน้ำนมข้าวโพดและสินค้าการเกษตรจำหน่าย สามารถหาซื้อของขวัญของฝากเพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหายกันได้ที่นี่ เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 – 20.00 น. โทร. 0-4436-1770-4

          การเดินทางท่องเที่ยวที่ดี คือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราได้พบเจอระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานที่ สิ่งของ บรรยากาศ ฯลฯ เพราะทุกอย่างคือประสบการณ์แห่งความสุขที่คุณได้รับและสัมผัสได้เพียงคน เดียวเท่านั้น กับ "ความเป็นส่วนตัวในโลกของส่วนรวม" สนุกและมีความสุขกับชีวิตในทุกย่างก้าวที่คุณออกเดินทางนะคะ...มิตรรักนัก เดินทาง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น